Emergency light หรือไฟฉุกเฉิน อุปกรณ์นี้มีหน้าที่ให้แสงสว่างซึ่งเป็นแสงสว่างสำรองในอาคาร โดยจะติดสว่างขึ้นมาแบบอัตโนมัติเมื่อเกิดเหตุไฟฟ้าดับหรืออาจเกิดเหตุฉุกเฉินไฟฉุกเฉินจะใช้พลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ซึ่งแบตเตอรี่มีทั้งแบบเติมน้ำกลั่นและแบบแห้งโดยจะถูกชาร์จไว้ตลอดเวลา ปัจจุบันไฟฉุกเฉิน LED ได้รับความนิยมสูงมากๆ สามารถเปล่งแสงออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ไฟฉุกเฉิน LED ช่วยประหยัดพลังงานได้สูงถึง 75 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว นอกจากนั้นยังมีอายุการใช้งานมากกว่า 5 หมื่นชั่วโมงด้วย การใช้ไฟฉุกเฉิน LED ช่วยให้อาคารลดการสูญเสียพลังงานได้เนื่องจากปล่อยความร้อนออกมาน้อยมากและยังไม่ก่อให้เกิดมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อมด้วย ไฟฉุกเฉิน LED ให้แสงสว่างที่ปราศจากรังสี UV ไม่มีผลทำให้สีของวัตถุ ภาพเขียน ภาพวาดหรือทำให้พื้นผิวเปลี่ยนแปลงได้รับความเสียหาย ข้อแนะนำในการใช้งานไฟฉุกเฉิน ก่อนใช้งาน 1.การใช้งานไฟฉุกเฉินก่อนใช้งานแนะนำให้ศึกษาได้จากคู่มือเนื่องจากไฟฉุกเฉินแต่ละยี่ห้อหรือแต่ละรุ่นมีการใช้งานที่แตกต่างกันออกไปรายละเอียดต่างๆ จะอยู่ในคู่มือ 2.การติดตั้งไฟฉุกเฉินสิ่งสำคัญเลยคือต้องคำนึงถึงแบตเตอรี่ หากเป็นแบตเตอรี่แบบเติมน้ำกลั่นแนะนำให้ติดตั้งในบริเวณที่โล่งหรือตามทางเดิน ติดตั้งในที่ที่มีอากาศถ่ายเทได้สะดวกเนื่องจากตลอดเวลาที่มีการประจุไฟเข้าไปยังแบตเตอรี่จะเกิดไอตะกั่วที่ระเหยออกมา หากนำไฟฉุกเฉินติดตั้งในสถานที่ที่อากาศถ่ายเทไม่สะดวกอาจทำให้มีปัญหาต่อระบบทางเดินหายใจได้ สำหรับแบตเตอรี่ไฟฉุกเฉินแบบแห้งสามารถติดตั้งได้ในห้องแบบปิดที่อากาศถ่ายเทไม่สะดวก ระหว่างใช้งาน 1.หากเป็นแบตเตอรี่แบบเติมน้ำกลั่นควรตรวจสอบระดับน้ำกลั่นทุก 1 เดือน 2.ระหว่างใช้งานควรทดสอบว่าไฟฉุกเฉินทำงานได้ปกติหรือไม่ โดยกดปุ่ม Test 1 ครั้งทุกเดือน 3.ควรให้แบตเตอรี่คลายประจุไฟฟ้าจนหมดเพื่อช่วยยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่โดยเปิดเครื่องทิ้งไว้ประมาณ 6 เดือนต่อครั้ง 4.กรณีที่ไฟฟ้าดับในช่วงกลางวันแล้วมีการปิดสวิตช์ไว้ ไม่ให้หลอดไฟสว่าง เมื่อไฟฟ้าจ่ายปกติแล้วให้เปิดทวิตไม่เช่นนั้นไฟฉุกเฉินจะไม่ประจุเข้าไปยังแบตเตอรี่ นอกจากการใช้งานไฟฉุกเฉินจะมีความสำคัญที่ควรศึกษาแล้ว การบำรุงรักษาก็เป็นสิ่งที่สำคัญด้วยเช่นเดียวกัน แนะนำให้ตรวจสอบระดับน้ำกลั่นทุก 14 วันหรือ 2 สัปดาห์ ทดสอบการทำงานของเครื่องโดย test […]